โลกสองใบ... หากใครคิดว่าทำไม่ได้ คงต้องลองมาทำความรู้จัก “เนเมส-เช้าวันใหม่ บุญชะลักษี” เด็กหนุ่มที่สร้างโลกทั้งสองใบได้อย่างสมบูณ์แบบ

By LTpops / 03 Aug 2023

...

SPOTLIGHT : POP GUY


Make it POP!

โลกสองใบ... หากใครคิดว่าทำไม่ได้ คงต้องลองมาทำความรู้จัก “เนเมส-เช้าวันใหม่ บุญชะลักษี” เด็กหนุ่มที่หากมองจากภายนอกก็ไม่ต่างจากเด็กหนุ่มที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นศิลปินคนหนึ่ง แต่เมื่อได้ทำความรู้จักมากขึ้นก็จะพบตัวตน และความสามารถที่แท้จริง


เขาไม่ใช่แค่เด็กหนุ่มผู้เดินทางตามหาความฝันอย่างมุ่งมั่นตั้งใจในฐานะของศิลปินฝึกหัดสังกัด GMM Academy และเป็นสมาชิกครอบครัว Warper Talented Artist เพียงเท่านั้น แต่ในอีกบทบาทหนึ่ง เขายังทำหน้าที่นิสิตชั้นปีที่ 2 คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เป็นอย่างดี ที่ต้องบอกแบบนี้เพราะคำตอบที่ได้รับเมื่อถูกถามว่าให้น้ำหนักทั้งสองสิ่งนี้อย่างไร เขาให้คำตอบว่า “เมสพยามยามทำให้เต็มร้อยทั้งสองอย่าง คือใส่ให้สุดทั้งสองอย่างเลย” และนั่นยิ่งทำให้ LTpops อยากทำความรู้จักกับเด็กหนุ่มผู้สร้างโลกทั้งสองใบคนนี้มากยิ่งขึ้นไปอีก


เริ่มจากที่มาของชื่อ “เนเมส” 

ชื่อ “เนเมส” แต่จริง ๆ แล้ว ถึงตอนนี้เมสก็ไม่รู้ความหมายจริง ๆ ของชื่อคืออะไรครับ แต่เท่าที่ถาม คุณพ่อบอกว่ามาจากพระนามฟาโรห์ของอียิปต์ เมสเป็นลูกคนเล็กของครอบครัว มีพี่สาว แต่เราไม่ได้ห่างกันมาก เรียกว่าหัวปีท้ายปี เลยแทบเป็นเพื่อนกันมากกว่า ตัวตนจริง ๆ ของเมสค่อนข้างเป็นสายกิจกรรม เพราะชอบเล่นเกม ดูอนิเมะ และเล่นกีฬา ยิ่งกีฬานี่ชอบหมดเลยครับ ทั้งบาสเก็ตบอล วอลเลย์บอล เทนนิส ปิงปอง ว่ายน้ำ ดอดจ์บอล ได้หมดเลย แต่ถ้าพูดถึงกีฬาหลักที่ชอบเล่นจะเป็นบาสเก็ตบอลครับ


จุดเริ่มต้นที่ทำให้สนใจมาเป็นศิลปินจนยอมทุ่มเทเวลาที่เหลือให้กับการฝึกซ้อม

จริง ๆ แล้วการทำงานในวงการบันเทิงเป็นสิ่งที่เมสใฝ่ฝัน และอยากทำมานานตั้งแต่ก่อนที่เมสจะเข้ามหาวิทยาลัยด้วยซ้ำครับ น่าจะเป็นช่วงที่ BTS กำลังดัง ต้องบอกเลยว่าตอนแรกเมสไม่รู้ด้วยซ้ำว่า K-pop คืออะไร จนกระทั่งเพื่อนชวนมาดู ทีนี้ก็เลยโดนป้ายยายาวเลย เพราะเพลงเขาดีจริง ๆ รวมถึง Performance และ Attitude ของเขา แล้วก็ Feeling ทั้งหมดมันสามารถสื่อสารได้อย่างตรงไปตรงมามาก ก็เลยไปหาข้อมูลว่าวงบอยแบนด์นี้ชื่ออะไร เขาฝึกฝนอย่างไร รู้สึกว่าเขามีเสน่ห์มาก ทั้งกรุ๊ปเจ๊งดี มี Energy เยอะ ก็เลยเริ่มอินกับการซ้อมเต้นเองที่บ้าน แต่ว่าในช่วงนั้นต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็เลยต้องจัด Priority ก่อน เดี๋ยวเสร็จแล้วค่อยว่ากัน พอสอบติดก็บอกกับตัวเองว่า “เราทำได้นะ” แล้วก็เริ่มมาโฟกัสที่การเป็นศิลปิน ซึ่งช่วงก่อนจะเข้ามหาวิทยาลัยที่บ้านไม่ค่อย Support สักเท่าไร เพราะอยากให้ตั้งใจเรียน ให้สอบติดมหาวิทยาลัยดี ๆ เมสก็เลยบอกกับตัวเองว่าเราต้องสอบติดให้ได้ ต้องเอาให้ได้ แล้วพอเมสทำได้ ก็เหมือนได้พิสูจน์ให้เขาเห็น แล้วก็หันมาสนับสนุนให้ลุยทำตามความฝัน เมสก็เลยททำพร้อม ๆ กันทั้งสองสายเลยครับ


จัดการตัวเองอย่างไรเมื่อต้องรับผิดชอบทั้งสองบทบาทควบคู่กันไป แถมยังต้องเตรียมตัวทำการบ้านอย่างหนักทั้งเรื่องเรียน และการทำงาน

  ตอนแรกคือหนักมาก เมสต้องปรับตัวโดยการลิสต์แต่ละอย่างว่าควรจัด Priority อันไหนก่อน อันไหนสำคัญกว่า เช่น สมมติว่าถ้ามีสอบวันพรุ่งนี้ก็ต้องอ่านหนังสือสอบก่อน แล้วค่อยซ้อมวันอื่น ต้องมี Time Management ที่ดีมาก ๆ ต้องพัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ ซึ่งเรื่องการจัดการเวลา เมสเรียนรู้เอาจากประสบการณ์ตัวเองเลยครับ เพราะตอนเพิ่งเข้าวงการแรก ๆ แล้วต้องเรียนควบคู่ไปด้วยเป็นอะไรที่หนักมาก เมสไม่สามารถ Manage เวลาได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เมสก็เรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นด้านการเรียนหรือการซ้อม นั่นทำให้เมสพัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ ส่วนสกิลในการจัดการเวลาก็ดีขึ้นไปด้วยครับ


ต้องเตรียมตัวหนักแค่ไหนในการทำตามความฝันเพื่อที่จะเป็นศิลปิน

ต้องบอกก่อนเลยว่าความคิดของเมสในตอนนั้นมัน Unexpected มาก คือไม่ได้คิดว่าจะหนักขนาดนี้ครับ เมสคิดว่าเป็นภาพรวมว่าเราก็น่าจะทำได้ น่าจะ Multitask ได้ ทั้งเรื่องเรียนและงานในวงการ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเยอะขนาดนั้น แต่พอเราได้มาสัมผัสจริง ๆ มันหนักกว่าที่คิดไว้มาก เรียกว่าตารางชีวิตทุกวันนี้คือแน่นปึ้ก (หัวเราะ) ถ้าพูดถึงด้านสกิล เรื่องที่ต้องฝึกฝนมากเป็นพิเศษคือทั้งเรื่องเต้นและร้อง ต้องกลับมาฝึกที่บ้านทุกวัน ไม่สามารถเรียนกับครูแล้วจะทำได้เลย ต้องกลับมาทำการบ้านอย่างหนักด้วย สำหรับเรื่องเพลง เมสต้องมาทำความเข้าใจว่าเพลงนี้มีความหมายอย่างไร มีความรู้สึกอย่างไร โทนมู้ดเป็นอย่างไร ส่วนท่าเต้นก็ต้องมาดูว่าไดนามิกควรจะต้องเป็นแบบไหนอย่างไร แต่ถ้าพูดถึงด้านที่ไม่ใช่สกิล อย่างที่บอกไปก็คือการจัดสรรเวลา Time Management เป็นหนึ่งอุปสรรคใหญ่ที่เมสก็ต้อง Manage ให้ได้ แล้วก็ต้องทำการบ้านเป็นพิเศษ เรียกว่าก็ยังต้องฝึกฝนกันอยู่ทุกวัน


แม้การทำงานในวงการนี้จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เสน่ห์หรือความน่าสนใจที่ทำให้ตัวเรา รวมถึงใคร ๆ ก็ยังอยากที่จะเข้ามาคืออะไร

เมสคิดว่าคือการทำให้คนมีความสุข อย่างเมสเอง ถ้าย้อนกลับไปในช่วงที่เมสโดนป้ายยาก็คือสิ่งที่ BTS รวมถึงศิลปิน K-pop คนอื่น ๆ ทำให้เรามีความสุข มี Passion ให้ Drive และแรงบันดาลใจในชีวิต เมสก็เลยอยากเป็นเหมือนเขาบ้าง

แม้จะเป็นช่วงเริ่มต้น แต่พอจะมองเห็นภาพอนาคตของตัวเองบนเส้นทางในวงการบันเทิงอย่างไร

เมสเห็นตัวเองดังมาก ๆ ในอนาคต อันนี้เป็นความเชื่อของเมสเอง จุดสูงสุดที่เมสอยากไปให้ถึงคืออยากไป World Tour มาก ไม่ได้อยากไปแค่ร้องเพลงในที่ต่าง ๆ  แต่อยากไปดู Culture ในแต่ละที่ด้วยครับ ไปพูดคุยทำความรู้จักว่าแฟนคลับแต่ละที่เป็นอย่างไร ไปเจอ Culture ใหม่ ๆ ไปเจอศิลปินที่เก่งกว่าเราที่อยู่อีกฟากหนึ่งของโลก แล้วไปลองประสบการณ์ใหม่ ๆ ไปเจอคนที่เราไม่รู้จัก ไปเรียนรู้วัฒนธรรมของเขา


มีเรื่องราวหรือประสบการณ์ที่เรียกได้ว่า POP ที่สุดที่เคยเกิดขึ้นบ้างไหม

ประสบการณ์ที่ POP น่าจะเป็นตอนสอบติดมหาวิททยาลัยครับ ตอนนั้นนั่งเล่นเกมอยู่ แล้วก็มีอีเมลแจ้งเข้ามาว่าวันนี้มีประกาศผลว่าใครสอบติดบ้าง เมสก็กดเข้าไปดูแล้วก็เลื่อนชื่อไล่ลงไป ปรากฏว่ามีชื่อของเราติดเป็นคนสุดท้ายเลย วินาทีนั้นเมสตะโกนวิ่งลงบันไดไปบอกพ่อแม่ว่าสอบติดแล้ว ตอนนั้นดีใจมาก (เน้นเสียง) มากแบบมาก ๆ เลยครับ พูดได้เลยว่าครั้งนั้นเป็นโมเมนต์ที่มีความสุขที่สุดในชีวิต (ยิ้ม) พอมาถึงตอนนี้เมสคิดว่าคณะที่เมสเรียนกับวงการที่เมสอยู่มันใช้สมองคนละส่วนเลย (หัวเราะ) แต่ก็ดีนะครับ เพราะเมสสามารถทำในสิ่งที่เมสชอบ แล้วก็ไม่เสียการเรียนด้วย ก็คิดว่าเป็นเรื่องดีครับที่ได้ทำควบคู่กันไป


นิยามความหมายของคำว่า POP GUY คืออะไร 

เมสคิดว่า POP GUY คือผู้ชายที่มีเสน่ห์ มีความดึงดูด มี Attitude ที่ดี มีความมั่นใจ แล้วก็มีทัศนคติที่ดี ซึ่งในโอกาสที่ได้เป็น POP GUY ในฉบับปฐมฤกษ์นี้ก็รู้สึกเป็นเกียรติมาก ๆ ครับ ต้องขอขอบคุณที่ให้เมสมาเป็น Interviewee คนแรก แล้วก็ขอให้ทุกคน Look Forward ในสิ่งที่เมสจะทำในอนาคตด้วยนะครับ 

แม้ว่าการเดินทางตามความฝันของเด็กหนุ่มคนนี้จะเพิ่งเริ่มต้น แต่ความสามารถบวกกับความมุ่งมั่นตั้งใจที่สัมผัสได้อย่างชัดเจน ทำให้กล้าพูดเลยว่าชื่อของ “เนเมส-เช้าวันใหม่ บุญชะลักษี” จะไปได้อีกไกล